TH | EN
TH | EN
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกColumnistBualuang Knowledge SharingFCN เครื่องมือการเงินสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องช่วงตลาด Sideway Down

FCN เครื่องมือการเงินสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องช่วงตลาด Sideway Down

ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในโซนล่าง ยิ่งในช่วงที่มีการประกาศกำไร บริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 ปี 67 ยิ่งเห็นได้ชัดว่า หุ้นไทยยังขาดแรงส่ง ขณะที่นักลงทุนยังมีความกังวล โดยเฉพาะเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้การลงทุนหุ้นไทยในช่วงนี้มีความท้าทายเป็นอย่างมาก แต่ว่า “หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง” หรือ Fixed Coupon Note (FCN) ยังคงเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์ในการสร้างผลตอบแทนในช่วงภาวะตลาดค่อย ๆ ปรับตัวลดลง และผันผวนในกรอบแคบ โดยนักลงทุนยังมีกรอบราคา Knock In (KI)  ไว้เป็นแต้มต่อในการลงทุน และยังสามารถสร้างกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบสัญญาเลือกหุ้นอ้างอิงใน SET50 ได้ด้วยตนเอง และยังสามารถวางกรอบราคาในสัญญาและระดับผลตอบแทนที่คาดหวังให้เหมาะสมกับแผนการลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้ของตนเอง

โดยปกติ Fixed Coupon Note หรือ FCN จะอ้างอิงกับราคาหุ้นในตะกร้าหลักทรัพย์ (1-2 หุ้นอ้างอิงใน SET50) และจะมีการจ่ายดอกเบี้ยให้นักลงทุน “ทุกเดือน” หรือ “ทุก 2 สัปดาห์” ตลอดการถือครองไม่ว่าหุ้นจะขึ้น ลง หรือแกว่งออกข้างก็ตาม โดย FCN มีผลตอบแทนที่คาดหวังสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไปอยู่ในช่วง 8-12% ต่อปี อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความผันผวนของหุ้นอ้างอิงในสัญญา ช่วงระยะเวลาลงทุน ราคาใช้สิทธิ (Strike) ราคา Knock Out และ ราคา Knock In โดย ราคา Knock In เปรียบเสมือนกรอบล่างที่ราคาหุ้นอ้างอิงสามารถปรับตัวลดลงไปได้ก่อนนักลงทุนจะมีโอกาสขาดทุนในส่วนของเงินต้น โดยปกติราคา Knock In จะอยู่ที่ระดับ 80%-90% ของราคาหุ้นอ้างอิง ณ วันทำสัญญา

นอกจากนี้ ราคา Knock Out หรือเปรียบเสมือนราคากรอบบน คือ ณ รอบจ่ายดอกเบี้ยงวดใด ๆ หากราคาหุ้นอ้างอิงในตะกร้าหลักทรัพย์สูงกว่าหรือเท่ากับราคา Knock Out นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยของงวดที่เกิดการ Knock Out พร้อมรับเงินต้นคืนเต็มจำนวน และจะถือเป็นการจบสัญญา FCN โดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องถือจนครบอายุ ดังนั้น FCN จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาเครื่องมือสร้างกระแสเงินสด รับดอกเบี้ยเป็ยงวด ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาวะตลาด Sideway หรือ Sideway Down ที่มีการแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ที่อาจทำให้นักลงทุนไม่ต้องการลงทุนในหุ้นอ้างอิงโดยตรง แต่ก็ต้องการให้เงินต้นเติบโตในอัตราที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรเข้าใจกลไกและความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นอ้างอิงโดยตรง และรับความเสี่ยงได้ เนื่องจากมีโอกาสที่การลงทุนใน FCN จะได้รับผลขาดทุนในกรณีที่ได้รับไถ่ถอน FCN เป็นหุ้นอ้างอิง โดยการลงทุนใน FCN ถือเป็นการลงทุนที่ไม่มีการคุ้มครองเงินต้น

จากผลสำรวจภาพรวมการลงทุนบน FCN ที่ออกและเสนอขายโดยหลักทรัพย์บัวหลวง ในช่วงเดือน พ.ค.67 พบว่า อัตราดอกเบี้ยบนสัญญา FCN ที่นักลงทุนเปิดสัญญามีค่าเฉลี่ยที่ 10.60% ต่อปี ยังคงอยู่ในระดับ 2 Digits ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างกระแสเงินสดด้วย FCN ภายใต้ภาวะตลาดที่ท้าทาย โดยนักลงทุนนิยมลงทุน FCN บนหุ้น TLI สูงสุดเป็นอันดับ 1  สัดส่วนการลงทุน 8.39% ของมูลค่าลงทุน FCN ทั้งหมดที่ออกและเสนอขายโดยหลักทรัพย์บัวหลวงในเดือนพ.ค. 67 อันดับ 2 GPSC สัดส่วนการลงทุน 6.72% อันดับ 3 AWC สัดส่วนการลงทุน 6.43% อันดับ 4  BGRIM สัดส่วนการลงทุน 5.44% และอันดับ 5 GULF สัดส่วนการลงทุน 4.80%

สำหรับภาพรวมการไถ่ถอนในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา มีสัญญา FCN ที่ออกและเสนอขายโดยหลักทรัพย์บัวหลวง ที่ได้รับเงินต้นคืนเป็นเงินสดสัดส่วน 91.63% สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนจับจังหวะเลือกหุ้นลงทุน FCN ได้ดีในช่วงภาวะตลาดผันผวนออกข้างและไต่ระดับลดลง โดยหุ้นอ้างอิงบนสัญญาที่ได้รับเงินต้นคืนเป็นเงินสดมากที่สุด คือ หุ้น AOT สัดส่วน 10.36% ของสัญญาทั้งหมด รองลงมา คือ หุ้น TLI สัดส่วน 9.96% หุ้น GULF สัดส่วน 7.17% หุ้น SCGP สัดส่วน 6.77% หุ้น IVL สัดส่วน 6.37% และ หุ้นอื่น ๆ สัดส่วน 50.99%

นอกจากนี้ยังพบว่า แม้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา SET Index ปรับตัวลดลงกว่า 15% แต่ผลการลงทุน ใน FCN ที่ออกและเสนอขายโดยหลักทรัพย์บัวหลวง มีสัดส่วนการรับคืนเป็นเงินสดอยู่ที่ 79.92% ของสัญญา FCN ทั้งหมดที่หมดอายุในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยจาก FCN เฉลี่ยอยู่ที่ 11.92 % ต่อปี สะท้อนได้ว่านักลงทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนจาก FCN ได้อย่างน่าสนใจ ภายใต้คำแนะนำจากผู้แนะนำการลงทุนมืออาชีพของหลักทรัพย์บัวหลวงที่ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งมอบบริการและคำแนะนำการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

อ้างอิงข้อมูลจากรายงาน FCN Newsletter ฉบับวันที่ 12 มิ.ย.67

อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ FCN เป็นตราสารที่ไม่มีการคุ้มครองเงินต้น ผู้ลงทุนจึงควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

ลงทุนอย่างมั่นใจ ในสภาวะตลาดหุ้นผันผวน ด้วยหลักการลงทุน DCA และ ASSET ALLOCATION

FCN และ ELN PLUS ผลิตภัณฑ์ทางเลือกแสวงหาผลตอบแทนช่วงตลาดไร้ปัจจัยหนุน

สินค้า TFEX มาแรงรับการขยายเวลาเทรด

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ