TH | EN
TH | EN
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกColumnistBualuang Knowledge Sharingลงทุนอย่างมั่นใจ ในสภาวะตลาดหุ้นผันผวน ด้วยหลักการลงทุน DCA และ Asset Allocation

ลงทุนอย่างมั่นใจ ในสภาวะตลาดหุ้นผันผวน ด้วยหลักการลงทุน DCA และ Asset Allocation

ในโลกการลงทุนที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น จากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น เช่น สิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และบริบทของแต่ละประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา การลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับนักลงทุน

รูปที่ 1 แสดงผลตอบแทนของ DR และ ETF ซึ่งเป็นตัวแทนดัชนีตลาดหุ้นของหลากหลายประเทศ
รูปที่ 1 แสดงผลตอบแทนของ DR และ ETF ซึ่งเป็นตัวแทนดัชนีตลาดหุ้นของหลากหลายประเทศ ที่มา: Aspen (29 Mar 2024)

จากรูปที่ 1 จะเห็นได้ว่า แต่ละเส้นหลากสีสันซึ่งแสดงถึงผลตอบแทนของ DR และ ETF ที่เป็นตัวแทนดัชนีตลาดหุ้นของหลากหลายประเทศได้มีการปรับตัวขึ้นลงอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศนั้น ๆ ตามช่วงเวลา

แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีนักลงทุนอีกมากมายที่สามารถอยู่ในตลาดและสามารถรักษามูลค่าพอร์ตลงทุนไปจนถึงสร้างผลกำไร แม้จะต้องเผชิญกับสภาวะตลาดที่ทั้งดีและแย่ที่แปรผันไปตามเวลาทำให้เราสงสัยว่า นักลงทุนเหล่านั้น เขามีสูตรลับหรือสูตรสำเร็จการลงทุนใดที่เข้ามาเป็นตัวช่วยให้ลงทุนได้อย่าง
ประสบความสำเร็จ ซึ่งวันนี้ทีม BLS Private Fund ของหลักทรัพย์บัวหลวง จะเข้ามาช่วยแกะสูตรลับการลงทุนดังกล่าวให้เพื่อน ๆ นักลงทุนได้ทราบไปพร้อม ๆ กัน

สูตรลับ #1 : การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA (Dollar-Cost Averaging)

หลักการลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA) คือ การซื้อหลักทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ แบบเป็นงวด ๆ ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน โดยไม่สนใจราคา ทำให้ตัดปัญหาเรื่องการจับจังหวะตลาดที่บางทีก็ยากจะคาดการณ์ พร้อมทั้งช่วยสร้างโอกาสถัวเฉลี่ยต้นทุน และลดความเสี่ยงจากความผันผวนให้น้อยลงกว่าการลงทุนแบบเงินก้อน (Lumpsum)

แม้การลงทุนแบบ DCA จะมีประโยชน์มากมาย ทว่าอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการลงทุนด้วยการ DCA ให้ประสบความสำเร็จ คือ นักลงทุนต้องมั่นใจได้ว่า สินทรัพย์ที่ลงทุนจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะยาว รวมทั้งอีกหนึ่งข้อควรระวังของการ DCA คือ การ DCA ในสินทรัพย์เดียว อาจส่งผลให้พอร์ตมีความผันผวนมากเกินไป เช่น พอร์ตปรับตัวลงในขนาดที่เกินกว่าเราจะรับไหว ทำให้เราถอดใจล้มเลิกเส้นทางการลงทุน เพราะทนกับสภาวะเช่นนั้นไม่ไหว จึงนำไปสู่สูตรลับการลงทุนถัดไปที่นักลงทุนแนวหน้าต่างนำมาปรับใช้กับพอร์ตลงทุนของพวกเขา

สูตรลับ #2 : การลงทุนกระจายสินทรัพย์ หรือ Asset Allocation

หลักการลงทุนแบบ Asset Allocation คือ การกระจายเงินลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยนอกเหนือจากการกระจายผ่านประเภทสินทรัพย์แล้ว ยังสามารถกระจายการลงทุนผ่านภูมิภาคได้ โดยการลงทุนในสินทรัพย์ของหลากหลายประเทศ

รูปที่ 2 ผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละสินทรัพย์ ที่มา https://novelinvestor.com/asset-class-returns/ (31 Mar 2024)  

จากรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่า สินทรัพย์เสี่ยงแต่ละประเภทไม่ได้ให้ผลตอบแทนในทิศทางเดียวกัน เช่น ในปี 2021 การลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT) อาจสร้างผลกำไรให้นักลงทุนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ในขณะที่การเลือกลงทุนในตลาดกำลังพัฒนา (Emerging Market : EM) เพียงอย่างเดียวอาจส่งผลให้พอร์ตลงทุนติดลบได้ นอกจากนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ไม่มีสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนยอดเยี่ยมได้ตลอดเวลา เพราะหากดูผลตอบแทนจากการลงทุนใน REIT ปี 2022 จะเห็นว่าการมี REIT อยู่ในพอร์ตลงทุน อาจส่งผลกระทบต่อพอร์ตลงทุนให้ติดลบได้ถึง -25% ดังนั้นหากพอร์ตลงทุนของเราประกอบไปสินทรัพย์หลากหลาย ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนของผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุนได้

หากผนึก 2 สูตรลับข้างต้นจะทำให้เราได้สมการการลงทุนที่เรียบง่ายและทรงพลังนั่นคือ

DCA + Asset Allocation = สูตรสำเร็จสำหรับการทวีคูณความมั่งคั่งในระยะยาว

นักลงทุนสามารถจัดพอร์ต โดยใช้หลักการลงทุนทั้ง 2 ได้ โดยมี 2 ขั้นตอน ดังนี้

1) คัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุนด้วยหลักการ Asset Allocation

  • พิจารณาเป้าหมาย ความเสี่ยงที่รับได้ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หากนักลงทุนมีเป้าหมาย เพื่อการเกษียณ และมีอายุไม่มาก ไม่มีภาระหนี้สิน โดยพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ แล้ว พบว่าเป็นผู้ที่สามารถรับ ความเสี่ยงด้านการลงทุนได้สูง อาจให้น้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงในสัดส่วนที่มากกว่าสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
  • พิจารณาสภาวะตลาดหุ้น/เศรษฐกิจ เช่น ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐฯ (ดัชนี S&P500) ปรับตัวขึ้นไปถึง 10.16% สวนทางกับตลาดหุ้นไทย (ดัชนี SET) ซึ่งต้องเผชิญกับผลกำไรติดลบที่ -2.2% จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ และความกังวลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่อาจยืดเยื้อเข้ามาเป็นปัจจัยกดดันตลาด เมื่อพิจารณาจากสภาวะตลาดดังกล่าว นักลงทุนอาจปรับลดสัดส่วนการลงทุนหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ แทน เป็นต้น

เมื่อคัดเลือกหลักทรัพย์คุณภาพ พร้อมให้น้ำหนักสัดส่วนลงทุนของแต่ละหลักทรัพย์ในพอร์ตลงทุนได้สอดคล้องกับหลักพิจารณาทั้ง 2 ข้อแล้ว จะนำไปสู่ขั้นตอนถัดไป

รูปที่ 3 ตัวอย่างการจัดพอร์ตลงทุนด้วยหลักการ Asset Allocation ด้วยการกระจายลงทุนในหลักทรัพย์หลากหลายประเทศ

รูปที่ 3 ตัวอย่างการจัดพอร์ตลงทุนด้วยหลักการ Asset Allocation ด้วยการกระจายลงทุนในหลักทรัพย์หลากหลายประเทศ ที่มา BLS Global Investing, Bloomberg (29 Mar 2024)
รูปที่ 3 ตัวอย่างการจัดพอร์ตลงทุนด้วยหลักการ Asset Allocation ด้วยการกระจายลงทุนในหลักทรัพย์หลากหลายประเทศ ที่มา BLS Global Investing, Bloomberg (29 Mar 2024)

2) นำ Asset Allocation มาจัดทำเป็นแผนการลงทุนแบบ DCA

  • พิจารณาระยะเวลาลงทุนพร้อมคิดคำนวณเงินลงทุนที่ต้องนำไปลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในแต่ละงวด

สเต็ปสำคัญนอกเหนือจาก 2 สเต็ปดังกล่าวแล้ว นักลงทุนจะต้องคอยติดตามข่าวสารการลงทุนเป็นประจำอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์หรือสภาวะตลาด ณ ขณะนั้น และได้รับผลตอบแทนบนความเสี่ยงที่เหมาะสม

ทั้งนี้ หากนักลงทุนสนใจการลงทุนแบบผสมผสานระหว่างการ DCA และ Asset Allocation นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านกลยุทธ์ DCA MIX จากหลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งกลยุทธ์จะกระจายการลงทุนใน DR และ ETF ที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า เป็นหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตในระยะยาว ผ่านการ DCA ตามแบบฉบับหลักทรัพย์บัวหลวง ที่นำเงินลงทุนรายเดือนมาเฉลี่ยซื้อ ETF หรือ DR เป็นรายวันให้นักลงทุนแบบอัตโนมัติ โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนใน ETF หรือ DR ได้ถึง 10 หลักทรัพย์ ครอบคลุมการลงทุนในดัชนีหลักของตลาดหุ้น 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สหรัฐฯ จีน ฮ่องกง และเวียดนาม ทั้งยังสามารถปรับสัดส่วนลงทุนใน DR หรือ ETF ได้ตลอดทางการลงทุน ช่วยให้พอร์ตยืดหยุ่นตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ หรือจะให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเป็นผู้คัดเลือก ETF หรือ DR พร้อมบริหารพอร์ตลงทุนให้อัตโนมัติ
ก็สามารถทำได้ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ประหยัดเวลา ครบจบ ในพอร์ตเดียว ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 5,000 บาท

ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถสมัครบริการระบบออมหุ้นอัตโนมัติออนไลน์ได้ง่าย ๆ ผ่าน  www.bualuang.co.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนหรือ BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจของผู้เขียน

หลักทรัพย์บัวหลวง ออก DW01 ซีรีส์ W ถือข้ามเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีค่าเสื่อมเวลา

FIXED COUPON NOTE (FCN) ตัวช่วยลงทุนตลาดผันผวน

ไม่ขายหมู ไม่ติดดอย DW กับ TRAILING STOP ORDER

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ