บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เริ่มใช้ Home Pulse บริการทางการแพทย์ที่จะยกระดับประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยการนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานเพื่อสร้างการเติบโต และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ป่วยซึ่งครอบคลุมในหลากหลายมิติ
Home Pulse เป็นบริการทางการแพทย์ที่ส่งตรงถึงบ้านของผู้รับบริการ โดยความร่วมมือกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจะมุ่งเน้นไปที่การให้บริการเก็บและนําส่งตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผ่านบริการเจาะเลือดและเก็บตัวอย่างปัสสาวะที่บ้านของผู้ป่วย ซึ่งช่วยลดระยะเวลาที่ผู้ป่วยและผู้ดูแลต้องสูญเสียไปที่โรงพยาบาลก่อนถึงวันและเวลาที่ต้องนัดพบแพทย์
รศ.นพ. ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการให้บริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพในการดูแลรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยในการเข้ารับบริการไปพร้อมกัน โดยตลอด 40 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ก้าวขึ้นสู่การเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิชั้นแนวหน้าของประเทศไทย มีคุณภาพ มาตรฐาน และศักยภาพการให้บริการทัดเทียมกับโรงพยาบาลในระดับสากล จึงถือเป็นอีกกำลังหนุนสำคัญในการรับมือกับปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศ
“บันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือ ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ ผนวกกับความเชี่ยวชาญในการให้บริการทางสาธารณสุขของบริษัท DKSH ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายในการส่งมอบการดูแลสุขภาพให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”
แพทริค แกรนเด รองประธานฝ่ายบริหาร หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ คือหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนความตั้งใจของ DKSH ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการเติบโต และการเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตของผู้คน บริการของ Home Pulse จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลในการกำหนดวันและเวลานัดหมายจากบ้านได้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ ในช่วงแรกของการให้บริการจะครอบคลุมพื้นที่ 60 กิโลเมตรในรัศมีที่อยู่รอบบริเวณของโรงพยาบาล ก่อนจะขยายไปทั่วประเทศตามแผนที่วางไว้ ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถประหยัดเวลาได้มากขึ้น บรรเทาความตึงเครียด และลดความแออัดที่โรงพยาบาลลง ซึ่งจะนำไปสู่ประสบการณ์ในการรับบริการที่ดีขึ้นและปฏิวัติการให้บริการทางการแพทย์ต่อไปในอนาคต
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รพ.กรุงเทพเตือน ปัญหาสุขภาพตา ภัยเงียบของคนไทยทุกช่วงวัย
รพ.ท่าวุ้ง ลพบุรี ใช้ Telemedicine บริการผู้ป่วยทั้งอำเภอกว่า 4,000 คน