TH | EN
TH | EN
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกSustainabilityทรินาโซลาร์ เปิดตัวนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์  พร้อมสนับสนุนเป้าหมายโครงการพลังงานสะอาด

ทรินาโซลาร์ เปิดตัวนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์  พร้อมสนับสนุนเป้าหมายโครงการพลังงานสะอาด

ทรินาโซลาร์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์โฟโตวอลเทอิก (PV หรือโซลาร์เซลล์) และระบบกักเก็บพลังงาน ประกาศแผนกลยุทธ์เพื่อรุกตลาดพลังงานหมุนเวียนในไทย ด้วยประสบการณ์กว่า 3 ทศวรรษในอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ ทำให้ทรินาโซลาร์ มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีชั้นนำ ทั้งแผงโซลาร์เซลล์ ชุดปรับมุมเอียงตามแสงอาทิตย์ และระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อรองรับการใช้งานในภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสาธารณูปโภค การพาณิชย์ อุตสาหกรรม (รวมถึงภาคการผลิต การดูแลสุขภาพ และการบริการ) ตลอดจนโครงการที่อยู่อาศัย กล่าวได้ว่าทั้งระบบโซลาร์เซลล์และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ของบริษัทพร้อมรับบทบาทสำคัญที่จะช่วยนำพาประเทศไทยไปสู่การบรรลุผลสำเร็จด้านพลังงานได้ตามเป้าหมาย

ข้อมูลตามแผนพัฒนาพลังไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) คาดการณ์ว่า การใช้พลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 51% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 20% ในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าพลังงานแสงอาทิตย์จะมีสัดส่วนประมาณ 70% ของพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด ขณะเดียวกันแผน PDP ยังระบุถึงมาตรการตอบสนองด้านโหลด (Demand Response) ซึ่งมีความสำคัญและกระตุ้นให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ไฟฟ้าตามราคาที่แตกต่างกันตลอดทั้งวัน โดยมีเป้าหมายเพื่อการเพิ่มศักยภาพในการลดความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak Demand)

แผนโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหรือสมาร์ตกริดของประเทศได้ตั้งเป้าลดความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดลง 1,000 เมกะวัตต์ และเพิ่มอีก 1,000 เมกะวัตต์ ผ่านการใช้แหล่งพลังงานแบบกระจายศูนย์ (DER) ซึ่งรวมถึงระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กและระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) ซึ่งจะถูกรวมเข้ากับระบบไมโครกริดหรือโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อให้ได้แหล่งพลังงานที่มั่นคง

แผนการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย ภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608

ขณะเดียวกัน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็กำลังเร่งบุกเบิกการผลิตพลังงานสะอาดด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อน โดยมีแผนที่จะพัฒนาโครงการสำคัญอย่างโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดทั้งสิ้น 16 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 2,725 เมกะวัตต์ (MW) ปัจจุบันโครงการนำร่องที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ได้เริ่มดำเนินการแล้วด้วยกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์และ 24  เมกะวัตต์ ตามลำดับ

เดฟ หวัง หัวหน้าอนุภูมิภาคประจำเอเชียแปซิฟิกของทรินาโซลาร์ ให้ความเห็นว่า “ช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการเดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งสู่พลังงานสะอาด เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วจากบริษัทชั้นนำอย่างทรินาโซลาร์ ได้ช่วยลดต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์อย่างมากตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม ทั้งแผงโซลาร์เซลล์ ชุดปรับมุมเอียงตามแสงอาทิตย์ และระบบกักเก็บพลังงาน ทำให้ทรินาโซลาร์ มีความพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนประเทศไทยในการปลดล็อกศักยภาพและบรรลุเป้าหมายสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์”

ตัวอย่างเช่น แผงโซลาร์รุ่น Vertex N ที่การันตีด้วยรางวัลชั้นนำ ได้ผสานสุดยอดเทคโนโลยี 2 ด้านเข้าด้วยกัน ได้แก่ เทคโนโลยี n-type i-TOPCon และเทคโนโลยีแผ่นเวเฟอร์ขนาด 210 มม. จนให้กำลังการผลิตที่สร้างสถิติโลก (740.6 วัตต์ ในห้องปฏิบัติการ) และให้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ที่ครบวงจรอย่างทรินาโซลาร์ ได้เข้ามายกระดับอุตสาหกรรมให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยแผงโซลาร์กำลังสูงที่ทำงานได้อย่างลงตัวกับชุดปรับมุมเอียงตามแสงอาทิตย์ และระบบกักเก็บพลังงาน จนได้เป็นโซลูชันที่ทำงานได้อย่างเสถียรที่สุด นอกจากนี้ การจัดหาอุปกรณ์ทั้งหมดจากแหล่งเดียวยังสะดวกต่อการขนส่งและการให้บริการหลังการติดตั้งระบบด้วย

เดฟ หวัง ยังกล่าวด้วยว่า ทรินาโซลาร์ จะให้ความสำคัญกับโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำและระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อสนับสนุนโครงการของรัฐบาลไทยในการผลักดันการใช้พลังงานทดแทนในกิจการพลังงานไฟฟ้า

ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะใช้พื้นที่ว่างที่มีอยู่มากมายและอาศัยคุณสมบัติความเย็นตามธรรมชาติของน้ำ

โดยในประเทศไทยนั้น ทรินาโซลาร์ ได้ดำเนินการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำขนาด 24 เมกะวัตต์ ที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้เริ่มใช้งานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 โครงการนี้คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 41,000 ตัน และผลิตไฟฟ้าได้ 46 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี รองรับการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณ 18,000 ครัวเรือน ทั้งนี้แผงโซลาร์ตระกูล Vertex ของบริษัท ยังใช้ในโซลาร์ฟาร์มสำคัญ ๆ หลายแห่งทั้งในประเทศอินเดีย มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์

การให้การยอมรับโซลาร์เซลล์ในวงกว้าง ตลอดจนการใช้แผงโซลาร์เซลล์และ BESS ในโครงการระดับสาธารณูปโภค ทำให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ในมิติใหม่หลายด้าน โดยการนำแบตเตอรีมาช่วยกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินระหว่างวัน และจ่ายพลังงานเมื่อจำเป็น จะช่วยลดการพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ทำให้โครงข่ายไฟฟ้าบริหารจัดการได้อย่างยืดหยุ่น และสามารถจ่ายพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันและผลิตด้วยพลังงานน้ำในช่วงกลางคืน

ขณะเดียวกัน BESS ก็จะช่วยกักเก็บการผลิตไฟฟ้าจากทั้งสองแหล่งในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ข้อดีอีกประการหนึ่งก็คือ เราสามารถรวมกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ไว้ในระบบกักเก็บพลังงานได้ด้วย เช่น ที่ผลิตจากพลังงานความร้อนและพลังงานลม และเมื่อใช้งานร่วมกับเซลล์แบตเตอรี่ LFP (Lithium Iron Phosphate) ความจุสูงอย่าง Trina Storage Cell ที่มีอายุการใช้งานถึงราว 20 ปี ก็จะทำให้โครงการพลังงานทดแทนมีต้นทุนการกักเก็บพลังงานต่อหน่วย (LCOS) ลดลง และมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยรวมแล้วแนวทางดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงการรักษาระดับโอกาสเกิดไฟฟ้าดับ (LOLE) และปรับปรุงความยืดหยุ่นทางพลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการให้บริการที่สำคัญ

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

AI กับการรายงานข้อมูลความยั่งยืน

จาก Net Zero สู่ Net Positive เพื่อก้าวสู่เส้นทาง Sustainability อย่างสมบูรณ์

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ